วิถีการใช้ชีวิตในเมืองกรุงอย่างประหยัดนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่คิดจะเข้ามาอยู่ในเมืองกรุงใหม่ๆ หรือเอาจริงๆก็สำคัญกับทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ เพราะด้วยภาวการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจและสังคม การเมืองตกต่ำ ส่งผลให้ปัจจัยในการครองชีพในเมืองกรุงเทพนั้นมากขึ้นเป็นทวีคูณเลยก็ว่าได้ โดยจริงๆแล้ว การใช้ชีวิตอย่างประหยัดนั้น มีวิธีรอดอยู่หลายทาง บทความนี้จะเลือกมาพูดถึงส่วนหนึ่งตามทัศนะของผู้เขียนและหวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการจะเอาชีวิตรอดในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครก็เป็นได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันที่หัวข้อแรกกันเลยดีกว่า
- การรู้จักรายได้ของตนเองและประเมินตนเองให้ดี จริงๆหัวข้อนี้แทบจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเรารู้จักที่จะเอาประเมินและประมาณตนเองไว้ เราจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปจากขอบเขตที่เราได้ตั้งไว้นัก การทำเช่นนี้อาจจะช่วยให้เรารู้ว่าอะไรที่สำคัญควรจ่ายเงินให้มันและอะไรที่สำคัญรองลงมาไว้จ่ายทีหลังหรือไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้มันนั้นเอง
- รู้จักของถูก รู้จักชีวิตคนกรุง ในบทความนี้จะไม่ส่งเสริมให้ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกรุงปลูกผักหรือทำผักสวนครัวกินเองเพื่อเป็นการประหยัดนะครับ เพราะหากเราพิจารณาถึงสภาพความเป็นจริง ชีวิตในเมืองกรุง ยิ่งสำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ตามคอนโดและห้องแถวแล้ว การปลูกพืชผักแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนที่อาศัยอยู่แถบจะไม่เพียงพอ แล้วจะเอาที่ตรงไหนของบ้านมาปลูกพืชได้อีก ดังนั้นวิถีการเอาตัวรอดที่จริงสำหรับคนกรุง คืออาจจะต้องรู้จักของถูกให้เป็น การเลือกซื้อหรือเลือกใช้ของถูกจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราประหยัดได้มากยิ่งขึ้น เช่น ปกติเราใช้ซื้อของตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ลองเปลี่ยนมาซื้อของจากร้านค้าทั่วไปหรือตลาดนัดที่มีราคาที่ต่ำลงอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการจับจ่ายหาซื้อของถูกมาก็เป็นได้ อีกทางหนึ่ง คือการรู้จักซื้อในทีละมากๆ ประเภทที่เขาเรียกว่า ซื้อแบบขายส่ง ซึ่งการซื้อของในลักษณะนี้เรามักจะได้ของที่ถูกลงจากราคาตลาดมากเพราะของเหล่านี้ส่วนมากจะซื้อมาเพื่อขายต่ออีกทอด เมื่อเราลัดวงจรไปซื้อของจากต้นทางในราคาขายส่งแล้วก็อาจจะทำให้เราประหยัดมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไร เราจะขายของเช่นนี้ เราก็ต้องมั่นใจได้ว่าประเภทของที่เราซื้อมานั้น ต้องเก็บได้เป็นระยะเวลานาน เพราะจำนวนของที่มากอาจจะทำให้เราใช้ไม่หมด ซึ่งแบบนั้นจากของดีจะกลายเป็นของเสียโดยใช่เหตุด้วยซ้ำ